ดูแลความงามอย่างไร ยามลมหนาวมาเยือน
เมื่อลมหนาวไม่ได้แค่พัดพาเอาความหนาวเย็นมาแตะผิวเท่านั้น แต่ยังหอบเอาอากาศแห้ง ๆ มาด้วย ทำให้ในฤดูนี้สาว ๆ มีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณมากเป็นพิเศษ ทั้งผิวแห้งกร้าน แตกลอกเป็นขุย แสบและคัน ซึ่งเป็นอุปสรรคกับความสวยความงามอยู่ไม่น้อย และก็มักเป็นเช่นนี้เป็นประจำในฤดูหนาวของทุก ๆ ปี ถ้าอย่างนั้นลองมาดูวิธีดูแลความงามในยามหน้าหนาว ที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากกันนะคะ
ไม่อาบน้ำอุ่นนานเกินไปอากาศเย็นแบบนี้ใคร ๆ ก็อยากอาบน้ำอุ่น ๆ เพราะมันสบายตัวดีนักเชียว แต่การเพลิดเพลินใต้สายน้ำอุ่น ๆ นานเกินไป มักทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ เมื่อคุณรู้สึกว่าผิวแห้งและตึงมาก ๆ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะน้ำอุ่นได้ชะเอาน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติออกไปเสียหมด รู้อย่างนี้แล้วใครที่ชอบอาบน้ำอุ่นก็อย่ามัวแต่สบายตัวอยู่ในห้องน้ำนานเกินไปนะคะ เดี๋ยวผิวจะแห้งกันไปใหญ่ล่ะหมดสวยเลย
เลือกใช้คลีนเซอร์แบบ soap-free
สำหรับฤดูหนาวควรเลือกใช้คลีนเซอร์ประเภท soap-free หรือแบบปราศจากสบู่ (ไม่มีสารทำให้เกิดฟอง) เพราะจะทำให้ผิวแห้งและตึงเกินไป เมื่อเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์แบบ soap-free ช่วงแรก ๆ คุณอาจรู้สึกลื่น ๆ ที่ผิวเหมือนล้างออกไปสะอาด แต่นั่นเป็นสัญญาณที่ดีแล้วค่ะว่าผิวของคุณยังคงมีน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติอยู่นั่นเอง
ไม่ใช้รองพื้นกับผิวที่แห้งอยู่แล้วเป็นทุนเดิม
แม้ว่ารองพื้นที่คุณมีจะออกแบบมาเพื่อผิวแห้งโดยเฉพาะ แต่การใช้รองพื้นกับผิวที่แห้งเข้าขั้นวิกฤติเป็นทุนเดิมอยู่แล้วไม่ทำให้อะไรดีขึ้น นอกจากจะยิ่งเน้นให้เห็นปัญหาผิวที่แห้งกร้านได้ชัดเจนเข้าไปใหญ่ ควรเปลี่ยนมาแก้ไขปัญหาให้ถูกจุดก่อนด้วยการเน้นการบำรุงผิวมาก ๆ รวมทั้งการขัดผิวเพื่อขจัดเซลล์หนังที่ตายแล้วออกไปโดยใช้สครับที่มีเม็ดสครับเล็กและไม่บาดผิว นอกจากนี้ยังควรเลือกสครับแบบที่สามารถเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ อย่างสูตรที่มีส่วนผสมของข้าวโอ๊ตและน้ำผึ้งด้วยค่ะ
เลือกใช้ลิปบาล์มให้เหมาะกับฤดู
ปัญหาริมฝีปากแห้งแตกเป็นสิ่งที่คุณพบได้เสมอในหน้าหนาว เพื่อดูแลอาการนี้จึงควรเลือกใช้ลิปบาล์มที่เหมาะสม ซึ่งควรมีเนื้อลิปที่เหนียวและเกาะริมฝีปากได้ดี อันจะทำให้สารบำรุงสามารถซึมลงสู่ผิว และบรรเทาอาการแห้งแตกของริมฝีปากได้ ต่างกับลิปบาล์มที่เนื้อมันคล้ายแว็กซ์ ซึ่งให้แต่ความมันเงาเคลือบริมฝีปากไว้อย่างเดียวท่านั้น สารบำรุงไม่ได้ลงลึกเพื่อบำรุงเรียวปากเลย
ไม่ละเลยครีมกันแดด
อากาศเย็น ๆ อาจทำให้คุณรู้สึกสบายผิวเสียจนลืมไปว่าแสงอาทิตย์ยังคงทำหน้าที่แผดรังสียูวีได้ดีเสมอไม่เปลี่ยนแปลง การทาครีมกันแดดยังคงเป็นสิ่งที่ "จำเป็นต้องทำ" โดยควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 เป็นอย่างต่ำ และหากเป็นสูตรที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ด้วยก็จะดีมากค่ะ
อย่าลืมบำรุงมือด้วยนะ
ผิวพรรณที่มือของคุณก็อ่อนไหวต่ออากาศได้ไม่แพ้ผิวหน้าและผิวกาย มันจึงควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษด้วย ยิ่งเป็นสาวรักสะอาดที่ชอบล้างมือ หรือใช้เจลล้างมือแบบไม่ต้องล้างน้ำตามอยู่บ่อย ๆ มือก็จะยิ่งแห้งและกร้านได้ง่ายมาก จึงจำเป็นทาแฮนด์ครีมทุกครั้งหลังล้างมือ เพื่อเติมความชุ่มชื้นกลับเข้าไป ทั้งยังควรนวดจมูกเล็บและขอบเล็บด้วยออยล์สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อบำรุงไม่ให้ส่วนรอบ ๆ เล็บแห้งจนแข็งเป็นหนังด้าน ๆ (ที่มักยั่วใจให้คุณดึงหนังแข็ง ๆ ออกจนเลือดไหลด้วยนะ)
ดูแลส้นเท้าไม่ให้แห้งแตก
เมื่อดูแลผิวที่มือแล้วก็อย่าลืมใส่ใจกับผิวที่เท้าของคุณด้วย หน้าหนาวเป็นฤดูที่ส้นเท้าจะแห้ง หยาบ และแตกได้ง่ายมาก ถึงขนาดเวลานอนฝ่าเท้าเสียดสีกับผ้าห่มดังแกรก ๆ เลยล่ะค่ะ ให้แช่เท้าในกะละมังที่มีน้ำอุ่นผสมกับน้ำสบู่อ่อน ๆ เมื่อผิวหนังเริ่มนิ่มแล้ว จึงใช้ที่ขัดส้นเท้าหรือกระดาษทรายสำหรับขัดเท้าขัดเอาผิวแห้ง ๆ ด้าน ๆ ออกไป เท้าของคุณจะเรียบเนียนและนุ่มขึ้น จากนั้นตามด้วยการทาครีมเนื้อข้น ๆ ทันทีที่เท้ากำลังแห้งหมาด นวดจนครีมซึมลงสู่ผิวดี และอย่าลืมทาโลชั่นแล้วสวมถุงเท้าก่อนนอนทุกคืนด้วยนะคะ
ปัดบรอนเซอร์อย่างไรให้ดูดีในหน้าหนาว
การปัดบรอนเซอร์ให้ผิวดูบ่มแดดแบบคนสุขภาพดี อาจทำให้คุณดูตลกและแปลกตาเกินไปได้ในหน้าหนาว วิธีการปัดบรอนเซอร์ให้ดูไม่เว่อร์จนหลอกตาคือการเลือกใช้บรอนเซอร์ที่ไม่เข้มกว่าผิวจริงเกิน 1 เฉด ปัดที่โหนกแก้มด้วยแปรงกลมขนาดใหญ่ จากนั้นปัดบลัชออนสีชมพูทับ ก็จะได้ผิวที่ดูเปล่งปลั่งกำลังดีในหน้าหนาวแล้ว
ถนอมผมด้วยการสวมหมวกหากคุณอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็นมาก ๆ คงจะพบปัญหาผมชี้ฟูจากอากาศที่แห้งมากได้ด้วย ลองหยิบหมวกมาใส่ดูสิคะ นอกจากจะช่วยให้ความอบอุ่นกับศีรษะได้แล้ว ยังช่วยไม่ให้ผมแห้งจนฟูได้ด้วย แต่สาว ๆ หลายคนก็พบอีกหนึ่งปัญหาตามมานั่นคือผมดูลีบลู่หลังจากถอดหมวก ซึ่งปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วยการมวยผมเป็นกลุ่มก่อนจะสวมหมวกทับสำหรับสาวที่ผมยาวประบ่าลงไป เมื่อถอดหมวกออก มวยผมที่คลายออกจะทำให้เส้นผมมีวอลลุ่มไม่ลีบลู่จนเกินไป ส่วนสาวผมสั้นให้เปลี่ยนแสกผมไปทางตรงกันข้ามกับที่ทำอยู่ก่อนจะใส่หมวก เมื่อถอดหมวกแล้วจึงใช้มือจัดทรงผมให้กลับสู่ทรงปกติอีกครั้ง การเปลี่ยนทิศทางของผมเช่นนี้จะทำให้โคนผมยกตัว และดูมีวอลลุ่มกำลังดียามที่ถอดหมวกค่ะ
ขอบคุณที่มา:
http://women.kapook.com/view54534.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น